"เป็นฝีในตับ" (มีอาการตัวเหลือง ตาขาว) แล้วฝีแตก หนองที่ฝีกระจายไปทั่วตัวจนติดเชื้อในกระเเสเลือดเกือบเสียชีวิต ถือว่าโชคดีที่คุณหมอผ่าตัดช่วยได้ทัน
ช่วงเดือนเมษายน 2554 เริ่มรู้สึกว่าในตัวมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ตรงบริเวณหน้าอกเหมือนมีเนื้อดันออกมา เวลาทานข้าวเหมือนไม่ลงท้อง เบื่ออาหาร แต่อยากกินของหวาน ไปทำงานตามปกติ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ร่างกายเริ่มซูบผอมลงจนผิดปกติ เหนื่อยง่ายกว่าเดิมเป็น 2 เท่า วันที่ 2 พ.ค.54 หยุดงานวันนี้เลยไปตรวจที่ รพ.เปาโล โชคชัย 4 ตั้งแต่ 11 โมง มีแพทย์หญิงตรวจ เจาะเลือดไปแล้วบอกว่าเลือดติดเชื้อไป 75 % แล้ว แต่หมอยังหาสาเหตุไม่เจอว่าเป็นอะไรบอกแค่ว่าตับโต เลยให้ไปเอกซเรย์ ตรงบริเวณที่หน้าอก แล้วนั่งรอจนแพทย์หญิงเรียกไปดูตอนฟิล์มเอกซเรย์มา ก็ยังวินิจฉัยไม่ถูก แพทย์ห้องข้างๆมาช่วยดูอีก 3 คน ช่วยกันดูยังวินิจฉัยกันไม่ได้ เลยให้มานั่งรอด้านนอก
ใจผมเริ่มเสียละ คงจะหนักเอาการ หมอให้เจาะเลือดไปตรวจอีกครั้ง 4 โมงเย็น ถูกส่งตัวไปตรวจที่อายุรกรรม ซึ่งแพทย์คนนี้แพทย์หญิงที่ตรวจผมเรียกว่าอาจารย์ เริ่มตรวจก็ใช้มือแทงที่ท้องเเล้วถามว่าเจ็บมั๊ย แต่ตอนนั้นยังไม่เจ็บก็บอกแพทย์ไปตรงๆ เลยถูกส่งเข้าห้องเอกซเรย์อีกรอบ ทำซีทีแสกน และดีท๊อก(ไม่แน่ใจว่าซีทีรึเปล่านะจำภาษาหมอไม่ได้) ตรวจอัลตร้าซาวด์เหมือนตรวจคนท้องอีกครั้ง นั่งรออีกชั่วโมงกว่า แพทย์ที่เป็นอาจารย์เรียกไปคุย แล้วบอกว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวสูงถึง 80 % รองลงมาก็ไวรัสตับบีรึว่าซี รึไม่อาจจะเป็นก้อนเนื้อที่ตับ แล้วก็ย้ำเรื่องมะเร็งเม็ดเลือดขาว แพทย์ถามว่ากินเหล้ารึเปล่าก็ตอบไปว่ากิน คราวนี้แพทย์พูดชุดใหญ่ ถ้าเป็นมะเร็งคงเกี่ยวกับการกินเหล้า มันเป็นกรรมเก่าของคุณที่ทำไว้ คุณก็ต้องยอมรับมัน(เออนี่หมอรึว่าพระ) แล้วก็ให้ใบนัดแพทย์ นัดมาวันที่ 4 ตรวจละเอียดอีกที
ผมเริ่มช๊อคตั้งแต่ที่หมอบอกว่าเป็นมะเร็งเพราะหลายๆคนที่เป็นอยู่ได้ไม่นานครับ ใจเสียเหมือนกันนะ เบลอไปเลยวันนั้น นั่งดูใบนัดแพทย์วันที่ 4 แต่วันที่ 3 ทำไมต้องให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน ด้วยยังไม่ได้บอกว่าจะผ่าตัดเลย วันที่ 3 โทรหาพี่ตี้ (พี่ที่ทำงาน) บอกว่าอาจจะต้องผ่าตัด หมอพบก้อนเนื้อในตับ(ไม่กล้าบอกว่าอาจเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวตามที่หมอวินิจฉัย) ตอนเย็นๆฝีน่าจะเเตก รู้สึกทั้งเจ็บทั้งปวด อาเเวะมาหา (อาล้วน)เห็นเจ็บมากบอกจะพาไป รพ.แต่ผมยังไม่อยากไปเลยกินยาแก้ปวดที่ รพ.ให้มาพอคลายปวดได้แล้วหลับไป
ตื่นมาเช้าวันที่ 4 พ.ค. 54 เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว กัดฟันลุกอาบน้ำไป รพ.เปาโล โชคชัย 4 พอไปถึงรอตรวจ เข้าห้องตรวจหมอเอามือแทงที่ท้องมันเจ็บมากเลยจับมือหมอไม่ให้แทงลงอีก ไปเอกซเรย์อีกครั้งแล้วรู้สึกว่าหมดสติไป
ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในห้องผู้ป่วยมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด สายเสียบไปในจมูกมีน้ำสีเขียวขี้ม้าไหลออกมาไม่ขาด สายออกซิเจนที่จมูก สายน้ำเกลือ แล้วก็สายให้เลือดระหว่างให้เลือดมีตุ่มขึ้นเป็นจุดๆเหมือนรอยยุงกัด (น้องหญิงญาติที่เป็นพยาบาลบอกว่าแพ้เลือด และให้กดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่) พยาบาลเข้ามาฉีดยาแล้วให้เลือดต่อ ลืมตาดูเห็นญาติพี่น้องทุกคนมากันหมด เริ่มใจเสียเพราะคิดว่าถ้าญาติมาซะขนาดนี้ น่าจะหนัก (หนักจริงครับ ได้ยินน้องชายบอกว่าตอนนั้นหมอบอกโอกาสรอด 50/50 หมอให้เซ็นใบยินยอมให้ผ่าตัดแล้ว แม้แต่ตัวผมเองก็ยังคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแล้ว) หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของ รพ.มายกจากเตียงที่ห้องใส่เตียงเข็น ซึ่งผมไม่ทราบจริงๆว่าวันนี้วันที่ 4 รึว่า 5 เห็นญาติบอกว่าผ่าตัดวันที่ 5 เข็นเตียงจากห้องพักเข้าสู่ห้องผ่าตัด เข้าห้องผ่าตัดหมอคุยอะไรกันสักพักเอาอะไรมาโปะที่บริเวณใบหน้าก็หมดสติไป ฟื้นขึ้นมาเห็นเจ้าหน้าที่ของ รพ.กำลังเข็นเตียงเราไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนในหนังที่ถ่ายหลอดไฟบนเพดานเคลื่อนไปเรื่อยๆ หมดสติอีก (คงเป็นตอนที่หมดสติไปสองวันนี้ละ ที่ทำให้นึกถึงเรื่องกรรมเวร ได้แต่บอกตัวเองว่าถ้ารอดไปได้ คงต้องทำบุญถวายสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆ ไม่แน่ใจว่าผมอุปทานไปเองรึเปล่า หลังจากเหตุการณ์นี้ผมเริ่มเข้าวัด ทำบุญไหว้พระ ถวายสังฆทาน บ่อยขึ้น)
ไม่รู้ว่าหลับไปกี่วันถามใครก็ไม่มีใครบอกได้ยินว่าอยู่ห้องปลอดเชื้อสองวัน ห้ามเยี่ยม ฟื้นขึ้นมาจริงๆที่ห้อง ICU ได้ยินเสียง พี่ตี้ กับ คุณฉัตรวิชัย คุยกัน และมีญาติอีกคน (พี่เลิศแฟนพี่กาย)ถามว่าทุกคนไปไหนหมด ผมตอบไปว่าอยู่ข้างนอก (ความจริงไม่รู้หรอก เพิ่งฟื้น ตอบด้วยความเบลอ) เลยพยายามกัดฟันลุกคุยไม่กี่คำรู้สึกเจ็บแผลก็เลยนอนต่อ
สำรวจตัวเองมีสายยางขนาดเล็กที่เจาะมาจากท้องอีก 3 สาย สายน้ำเกลือ 1 สาย ที่จมูกมีสายออกซิเจน สายที่เอาน้ำสีเขียวขี้ม้าออกจากจมูกอีก 1สาย สายฉี่อีก 1สาย รู้สึกปวดแผลมากครับทนไม่ไหวก็เลยกดปุ่มเรียกหมอ มีหมอมาฉีดยาแก้ปวดเข้าทางสายน้ำเกลือให้(ซึ่งมาทราบภายหลังว่ายาแก้ปวดคือ มอร์ฟีน)เวลาได้รับยาจะรู้สึกคลายเจ็บแล้วตากระพริบเรื่อยๆเย็นตัว เหมือนลอยอยู่ในอากาศแล้วจะหลับไป ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ขอยาแก้ปวดสักพักสติกำลังหลุดก็หลับไปด้วยฤทธิ์มอร์ฟีน
ผมหลับๆตื่นๆในห้อง ICU จนย้ายขึ้นไปห้อง 617 ขณะปวดแผลฉีดยาแก้ปวดแล้ว กำลังเคลิ้มหลับ ได้ยินเสียงพี่ตี้ พี่โอเล่ รัตน์ เบิดมาเยี่ยม พยายามลืมตาแล้วลืมตาไม่ขึ้นแต่ว่าได้ยินเสียงที่คุยกันหมด
อีกวันเป็นเพื่อนที่เรียนรามมาด้วยกัน สานเเสงทอง 40 มาเยี่ยม มาคุยแบบฮาๆ พอขำรึว่าหัวเราะมันเลยสะเทือนแผลผ่าตัดนิดนึง เจ็บแปลบๆที่ท้อง พอคลายเหงา คลายเบื่อได้บ้าง
หลังจากนั้นมาวันที่ 12 หมอให้ออกจาก รพ. แต่พอล้างแผลทุกวันจนถึงวันที่ 19 เย็บปิดแผล 19 เข็มเย็บสดไม่ฉีดยาชา เจ็บมาก มาวันที่ 19 เย็บไป 19 เข็มหมอเย็บตามวันที่รึเปล่าไม่แน่ใจ (ถ้ากรูมาเย็บแผลวันที่ 31 คงเย็บ 31 เข็มชัวร์ ) หลังจากเย็บแผลเสร็จ ก็พักยาวถึงปลายเดือนมิถุนา และให้มาล้างแผลทุกวัน นัดวันที่ 26 พ.ค. เพื่อดูแผล พอดูแผลเสร็จก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ถอดไหมสดๆ 10 กว่าเส้น ไม่ฉีดยาชา วันนี้ไม่ได้นับ นอนเจ็บแผลอยู่ และหมอให้มาล้างแผลทุกวัน
"ช่วงที่ฟื้น ออกมาอยู่ห้องปกติ ผมได้สอบถามทางคุณหมอที่มาตรวจผมว่า ฝีในตับเกิดจากอะไร คุณหมอท่านแจ้งว่ากินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ คาดว่าจะเกิดจากการที่ผมกินลาบดิบ ลู่ดิบ ซกเล็ก อาหารสุกๆดิบ" ออกโรงพยาบาลมาได้เลิกกินพวกนี้หมด
ขอบคุณ คุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ทุกท่านที่ดูแลผมช่วงนั้นด้วยครับ (ใช้สิทธิ์ประกันสังคม)
วันที่ 4 อาผมบอกว่า ก่อนไปถึง ร.พ.ทั้งตัวและใบหน้าเหลืองจนออกสีขมิ้น ตอนแพทย์ตรวจบอกตัวเหลืองแต่ตาไม่เหลือง ตอนนี้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตับจึงได้ทราบว่าตับมีหน้าที่กรองสารพิษ และฟอกเลือด ถึงว่าก่อนผ่าตัดตับผมคงไม่ทำงานแล้ว จนทำให้เลือดติดเชื้อถึง 75% กระเพาะ ลำใส้หยุดทำงาน
ตอบลบพี่ครับผมอยากทราบว่าเมื่อเราผ่าตัดเราโอกาศจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหมครับ
ตอบลบHow to get the game to Virgin Media Live In London - JamBase
ตอบลบLive streaming 과천 출장샵 is available on the 네이버 룰렛 App 안산 출장안마 Store, and it 성남 출장샵 lets 광양 출장마사지 you watch live shows in HD for free. This means you can watch every race in the UK and